Thursday, July 10, 2014

แพทย์ที่ปรึกษา Kangen Water® Medical Advisors

Kangen Water® Medical Advisors
แพทย์ที่ปรึกษาของบริษัท Enagic 

Dr.Horst S. FiltzerEnagic is honored and proud to have as part of its team two distinguished and experienced medical professionals. Dr. Filtzer and Dr. Shinya serve as Medical Consultants to Enagic, bringing with them decades of extensive medical insights and being part of the Kangen Water® team.
Biography of Horst S. Filtzer MD, F.A.C.S.
Currently active in advancing the use of Kangen Water® as a great benefit to all mankind. He is also Director of the Wound Care Center in Western Arizona Regional Medical Center, Bullhead City, AZ.
Horst has 35 years of active surgical practice in General and Vascular surgery.

12 July 1941
Born in Pabiance, Poland.
1945 - 1955
Lived in East and West Germany.
1955
Emigrated to U.S., Fargo, North Dakota.

1959
Graduated from Central High School in Fargo, North Dakota.
1963
B.S. Cum Laude, University N. Dakota
1965
M.D. Cum Laude, Harvard University

1965 - 1966
Internship in surgery at Harvard Surgical Service, Boston City Hospital
1966 - 1968
Military Service. Horst was Captain, M.C. of the United States Army, Republic of Vietnam, Mobile Riverine Force 9th Infantry Division.
Decorations
3 Bronze Stars for valor, Army Commendation Medal, Combat Medics Badge.

1968 - 1968
Officer In Charge, Combat Medics Training Center, Brook Army Medical Center, Fort San Houston, Texas.
1989 - 1990
Walter Reed Army Medical Center, Washington, D.C., Colonel M.C., U.S.A.R., Senior Surgeon, Division of Vascular Surgery. Lecturer, Uniformed Services Medical School, Bethesda, Maryland.
1969 - 1973
Resident in General and Vascular Surgery, Chief Resident and Fellow, Harvard Surgical Services, Boston City Hospital.

1973 - 1985
Assistant Director, Department of Surgery, Cambridge Hospital, Cambridge, Massachusetts - A Harvard University Teaching Hospital.
1974
Board Certified in General and Vascular Surgery
1985 - 1988
Associate Director, Department of Surgery, Cambridge Hospital.

1989 - 2006
Chairman and Resident Training Program Director, Cambridge Hospital.
2007
Taught advanced trauma life support at the Orthopedic Hospital in Ho Chi Minh City, Republic of Vietnam.
May 2009
Retired from surgery

Main interests:
Resident training, Vascular Stent technology, Stent Graft technology, minimally invasive surgery. Multiple publications and book chapters.
Other interests:
Restoration of vintage Harley-Davidson motorcycles, avid rider of motorcycles. Married to Cheryl Filtzer, November 1981. 2 Daughters, Lauren and Katie, the joys of his life.

Biography of Hiromi Shinya MD

ดร.ฮิโรมิ ชินยะ เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะนักพัฒนาการผ่าตัด colonoscopic (เทคนิค Shinya) เขาเป็นคนแรกในการผ่าตัดลำไส้ใหญ่โดยไม่ต้องผ่าช่องท้อง โดยการใช้ colonoscope ที่เขาคิดค้นขึ้น และรักษาผู้ป่วยมามากกว่า 400,000 คน
Dr. Hiromi Shinya

Hiromi Shinya, MD is well known as the developer of the field of colonoscopic surgery (the Shinya Technique). He performed the first non-invasive colon surgery. Using his own invention of the colonoscope, he discovered the ability to both examine and operate on the colon without abdominal incision.

Dr. Shinya is Clinical Professor of Surgery at Albert Einstein Collage of Medicine and Chief of the Endoscopy Unit of Beth Israel Hospital in New York, as well as an advisor for Maeda Hospital and Hanzomon Gastrointestinal Clinic in Japan. A native of Japan, Dr. Shinya received his medical education both in Japan and in the United States.

Dr. Shinya, now past 70, continues an active daily practice of medicine, spending half of each year in New York City and the other half in Tokyo. He is Japan's most famous doctor and treats members of Japan's royal family and top government officials. His practice in the United States also includes celebrities and Presidents. He is Vice Chairman of the Japanese Medical Association in the USA, and much in demand as a speaker internationally.

The Enzyme Factor is the first book in English by this major international medical expert, is based on his Japanese bestseller How to Live Long and Never Be Sick, which has sold over two million copies since its publication in 2006.

from...www.enagic.com/enagic_medicaladvisors.php

Kangenthai
Tel : 081 514 5615 (ais)
      : 085 192 6549 (dtac)
FB : https://www.facebook.com/Kangenthai
Line : Kangenthai
Email : kangenthai@gmail.com
Webpage : http://kangenthai.com
                 : http://www.enagic.com

Wednesday, July 2, 2014

ประโยชน์ของการดื่มน้ำ

"น้ำดื่ม"
เรื่องดีๆ มีประโยชน์
ทบทวนเรื่องการดื่มน้ำที่ถูกต้องกัน
คำว่า ''ดื่มน้ำมากๆ'' ทำให้ความเข้าใจในเรื่องวิธีการดื่มน้ำคลาดเคลื่อน ไปจากระบบการบริหารน้ำในร่างกายที่คล้อยตามธรรมชาติ
ซึ่งธรรมชาติของร่างกายคนเรา ต้องการความเป็นด่างจากน้ำเข้าไปสมดุลกับความเป็นกรดที่เกิดจากการเผาผลาญในร่างกายอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งจะอธิบายได้ดังนี้

๑) ในร่างกายน้ำที่ใช้ไปแล้ว ซึ่งมีสภาพเป็นกรด
๒) ธรรมชาติของน้ำมีสภาพเป็นด่าง (น้ำกระด้าง)
๓) การดื่มครั้งเดียวจำนวนมากๆ ร่างกายรักษาน้ำได้เพียงจำนวนหนึ่ง ส่วนที่เกินร่างกายก็ต้องระบายน้ำออกจากร่างกาย .....หากดื่มลักษณะนี้เป็นประจำ ร่างกายก็จะระบายน้ำจนเกิดภาวะขาดน้ำดังนั้นค่อยจิบที่ละนิดดีกว่านะค่ะ
๔) การดื่มน้ำหลังอาหารเป็นจำนวนมาก หรือดื่มน้ำระหว่างอาหาร ที่เรียกว่า ''ข้าวคำน้ำคำ'' จะเป็นการ เจือจางน้ำย่อยที่มีสภาพเป็นกรด ด้วยสภาพด่างของน้ำ จึงเป็นการลดประสิทธิภาพในการย่อย อาหารที่กินเข้าไปจึงเน่าเสีย เกิดเป็นแก๊สพิษ ยิ่งถ้าคนที่ทานผลไม้หลังอาหารแทนที่จะทานก่อนอาหาร เนื้อสัตว์ที่ย่อยยากกว่าจะขวางผลไม้ที่ย่อยง่ายกว่าให้เน่าเสียอยู่นาน ซึ่งเป็นต้นเหตุของภาวะเจ็บป่วยมากมาย
๕) ทุกครั้งที่ร่างกายระบายน้ำออกจากร่างกาย ทั้งไอน้ำที่ระเหยออกทางปากเหงื่อที่ระบายออกตามผิวหนัง ปัสสาวะ และอุจจาระ รวมถึงสารคัดหลั่งต่างๆ ร่างกายจะสูญเสียสภาพด่าง ในรูปแร่ธาตุไปด้วยเสมอ จึงจำเป็นจะต้องดื่มน้ำ ซึ่งมีสภาพด่างชดเชยอย่างต่อเนื่องหรือทานอาหารที่เป็นด่างบ้าง
๖) ขณะที่เรานอนตอนกลางคืน ซึ่งใช้เวลานอน ๖-๘ ชั่วโมง ร่างกายจำเป็นต้องใช้ความเป็นด่างของน้ำในการรวบรวมกรดในร่างกาย เพื่อจะระบายออกในวันรุ่งขึ้น
.....จึงจำเป็นจะต้องดื่มน้ำก่อนเข้านอน รวมทั้งเวลาก่อนเข้านอนตามนาฬิกาชีวิตเป็นช่วงเวลาที่ถุงน้ำดีทำงาน ถ้าดื่มน้ำน้อย น้ำดีจะข้นทำให้มีโอกาสเป็นนิ่วในถุงน้ำดีมากขึ้น และเป็นช่วงเวลาปรับสมดุลความร้อนค่ะ
๗) ระบบขับถ่ายจำเป็นต้องอาศัยน้ำในการลำเลียงมวลอุจจาระ
.....จึงจำเป็นต้องดื่มน้ำทุกเช้าหลังตื่นนอนแลควรดื่มจำนวนมากพอเพราะร่างกายขาดน้ำมาทั้งคืน
น้ำที่ดื่มควรเป็นน้ำอุณภูมิปกติ
Enagic Kangen Water

การดื่มน้ำให้สมดุลก็เป็นเรื่องง่ายๆ ดังนี้
๑) ดื่มน้ำเมื่อตื่นนอนช่วงหกโมงเช้า ๑-๓ แก้ว
๒) ดื่มน้ำอย่างมากที่สุดไม่เกินครึ่งแก้วหลังมื้ออาหาร
๓) ดื่มน้ำชั่วโมงละครึ่งแก้ว เว้นก่อนอาหาร 1/2-1 ชม.
๔) หากกินอาหารที่เป็นกรดสูง ให้ดื่มน้ำขิง หรือน้ำอุ่น เข้าไปช่วยย่อย
๕) ดื่มน้ำก่อนเข้านอนในช่วง ๒๑.๐๐น.
๖) หลังปัสสาวะต้องดื่มน้ำครึ่งแก้ว เข้าไปชดเชยเสมอ
ดื่มน้ำชั่วโมงละครึ่งแก้วให้เป็นนิสัย รักษาสมดุลสุขภาพได้ตลอดไป
ดื่มน้ำน้อยทำให้กระดูกสันหลังกดทับเส้นประสาท เนื่องจากระหว่างกระดูกแต่ละชิ้นต้องมีน้ำหล่อเลี้ยงกั้นกลาง ถ้าดื่มน้ำน้อยก็ขาดน้ำที่จะไปสร้างนำหล่อเลี้ยง กระดูกจึงมาใกล้กันมากขึ้น
ดื่มน้ำน้อยจะแก่เร็ว
เพราะร่างกายจะจัดสรรน้ำให้สมองเป็นอันดับแรก อันดับต่อมาคือปอด ต่อไปคือตับและไตเพื่อขับถ่ายของเสีย อวัยวะลำดับท้ายๆ คือกล้ามเนื้อและกระดูก ส่วนที่อยู่ในตำแหน่งรั้งท้ายคือผิวหนัง ด้วยเหตุนี้สัญญาณแห่งความแก่จึงปรากฏบนผิวก่อนเป็นอันดับแรก
ความเจ็บป่วยเรื้อรังต่างๆรวมทั้งมะเร็งมีสาเหตุมาจาก cell ในร่างกายขาดน้ำเป็นเวลานาน ทำให้เลือดหนืดไหลเวียนไม่ดี จึงไม่สามารถสร้าง cell ใหม่แทน cell เก่าได้เต็มที่
น้ำที่กล่าวมาทั้งหมดหมายถึง น้ำเปล่าไม่ใส่สารปรุงแต่งโดยเฉพาะรสหวาน
หลีกเลี่ยงน้ำเย็นจัดหลังอาหารโดยเฉพาะอาหารมื้อหนักและอาหารมันๆ เพราะทำให้หัวใจวายได้
การดื่มน้ำเย็นจัดเหมือนแก้ร้อนใจได้ก็จริงแต่จะทำให้ร่างกายร้อนใน
ดื่มให้ถูกชนิดคือ น้ำใดที่ถูกกับร่างกายแต่ละคนดื่มแล้วร่างกายรู้สึกสบายดับกระหายได้
เช่น หมอดื่มน้ำอุ่นๆ 2-3 แก้วตอนตื่นนอน ก็ยังรู้สึกกระหาย ปากแห้ง พอผสมน้ำแร่เข้าไปด้วยรู้สึกปากหายแห้ง. แต่ละคนไม่เหมือนกันค่ะ
คนเดียวกันเวลาเปลี่ยนไปก็ไม่เหมือนกัน. พอหมอดื่มน้ำแร่ไปซักพัก บางครั้งมาดื่มน้ำเปล่ากลับดีกว่า. ดังนั้นสังเกตของตัวเราเองนะคะ.

คุณหมอชินยะบอกว่า การดื่มน้ำน้อยเกินไปมีผลทำให้เกิดโรคหลายชนิด เช่น
1. ความดันสูงหรือหัวใจเต้นเร็ว เพราะเมื่อน้ำน้อย เลือดจะหนืด ไหลเวียนไม่สะดวก ร่างกายจึงพยายามให้เลือดไหลเวียนไปอวัยวะสำคัญให้พอด้วยการที่หัวใจทำงานหนักขึ้นคือ เต้นเร็วขึ้น และส่งแรงดันมากขึ้น ความดันจึงสูงขึ้น
2. เวียนศีรษะเพราะเลือดไปเลี้ยงไม่พอ
3. ปวดขา เป็นตะคริวตอนดึก ก็เพราะกล้ามเนื้อยึดหยุ่นได้ไม่ดีเนื่องจากปริมาณน้ำในเลือดลดลง
4. ภูมิแพ้ ถ้าดื่มน้ำมากขึ้นร่างกายจะหลั่งสารฮีสตามีนที่ทำให้เกิดภูมิแพ้น้อยลง
5. มะเร็ง เพราะขาดน้ำที่จะใช้ขับสารพิษจากเซลล์ พิษจึงสะสมคั่งค้าง
การดื่มน้ำให้เพียงพอจึงเป็นสิ่งจำเป็นในการป้องกันการกลับมาเป็นมะเร็ง
6. ตาแห้ง โดยเฉพาะคนที่อยู่หน้าจอเป็นประจำ
ปัญหาตาแห้งมักอยู่ที่ร่างกายขาดน้ำมากกว่าอยู่ที่ตาแห้งอย่างเดียว ถ้าตาแห้งให้ดื่มน้ำ 2-3 แก้วแล้วหลับตาซักครู่จะดีกว่าหยอดตาเพราะการหยอดตาแก้ได้เฉพาะที่ตาอย่างเดียว

น้ำเต้าหู้ 1ถุง ไม่ใส่น้ำตาล ไม่เย็น ไม่ร้อน บวกกับมะนาว1ลูกแล้วคนให้ เข้ากัน ลักษณะของ น้ำเต้าหู้จะเปลี่ยนไปเป็นไขขุ่น คล้ายซีลีแลค หรือ คล้ายๆ วุ้นเละๆ หรือ โจ๊ก
หน้าตาจะไม่สวยแต่คุณค่าสูง นพ.สมเกียรติ อธิคมกุลชัย จักษุแพทย์ โรงพยาบาลเอกชัย จ.สมุทรสาคร ได้แนะนำคนไข้ดื่มน้ำนมถั่วเหลือง + ผสมน้ำมะนาวอาหารเสริมอายุวัฒนะสรรพคุณโดยรวม..เป็นอาหารเสริมที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพของร่างกายสมอง และสายตา หากดื่มเป็นประจำทุกวัน มีสรรพคุณที่โดดเด่นดังต่อไปนี้ คือ
1.ช่วยให้ระบบเส้นเลือดฝอยทั่วร่างกาย มีความยืดหยุ่นดี ไม่เปราะหรือแตกง่าย ดังนั้น คนที่มีปัญหาเส้นเลือดฝอยเปราะ แตกง่าย และมีเลือดออกตามร่างกาย เช่น เลือดออกที่ใต้เยื่อบุตาขาว หรือในผู้หญิงที่มักจะเกิดรอยจ้ำ เขียวช้ำเวลาถูกกระทบกระแทก หรือในผู้สูงอายุที่มักจะมีเลือดออกใต้ผิวหนัง ก็ช่วยให้ดีขึ้น และยังเชื่อว่าสามารถป้องกัน
โรคเส้นเลือดในสมองตีบตัน
หรือแตกได้เช่นกัน
(ป้องกันโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต)
2.ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้สุขภาพแข็งแรง ต้านทานโรคติดเชื้อได้ดี ไม่เจ็บป่วยง่าย เช่น ในคนที่เป็นโรคเริมที่ริมฝีปากหรือบริเวณอวัยวะเพศ จะช่วยลดหรือหยุดการกำเริบซ้ำได้ หรือในรายที่ภูมิคุ้มกันไม่ค่อยดี เป็นไข้ ไอ เจ็บคอบ่อยๆ ก็จะช่วยให้อัตราการป่วยลดลงได้เช่นกัน
3.ช่วยส่งเสริมระบบไหลเวียน
เลือด ทำให้อวัยวะต่างๆของร่างกายทำงานได้เต็มที่ สมองแจ่มใส ไม่มึนงง ร่างกายสดชื่น
(ผู้สูงอายุที่มีอาการมึนงง เซื่องซึม และเดินเซ จะเห็น การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นชัดเจน ) สามารถทนต่อการทำงานตรากตรำที่ต้องอดหลับอดนอนได้ดี
ขึ้น เช่น นักเรียน นิสิต
นักศึกษา ที่ต้องคร่ำเคร่ง ใช้สมองทบทวน ตำราใกล้สอบ หรือ ผู้ที่ต้องทำงาน หรือขับรถทางไกลในเวลาค่ำคืนเป็นประจำ
4.ช่วยให้เนื่อเยื่อต่างๆของร่างกาย แข็งแรง สามารถซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอได้ดี บาดแผลทุกชนิดจะหายเร็วขึ้น และช่วยให้รากผมแข็งแรง บรรเทาปัญหาผมร่วงในหญิงวัยทองได้
5.เมื่อสุขภาพโดยรวมดีขึ้น ก็จะทำให้สมรรถภาพทางเพศดี ตามไปด้วย
6.จากคุณสมบัติต่อต้านอนุมูลอิสระ (Anti-Oxidant) ของวิตามินซีในมะนาว และสารไอโซฟลาโวนในถั่วเหลืองช่วยป้องกันมะเร็ง

Kangenthai
Tel : 081 514 5615 (ais)
      : 085 192 6549 (dtac)
FB : https://www.facebook.com/Kangenthai
Line : Kangenthai
Email : kangenthai@gmail.com
Webpage : http://kangenthai.com
                 : http://www.enagic.com